Back 4 Blood แตกต่างจาก Left 4 Dead อย่างไร

Back 4 Blood

สิ้นสุดการทดสอบไปแล้วทั้งสองรอบ สำหรับ Back 4 Blood รอบ Early Access และ Open Beta ซึ่งคาดว่าผู้เล่นหลายคนน่าจะได้ทดลองเล่นไปจนเต็มอิ่มแล้ว แต่หลายคนอาจจะพลาดไปหรือไม่ได้เล่น และมีคำถามที่ถกเถียงกันมาตลอดว่า ท้ายที่สุดแล้ว Back 4 Blood / Left 4 Dead มีความต่างกันยังไงบ้าง วันนี้มาหาคำตอบกัน

From Left 4 Dead to Back 4 Blood

อาจจะบอกได้ไม่เต็มปากว่ามันคือการพัฒนาการของ Turtle Rock ผู้สร้าง เพราะนี่อาจจะเป็นการกลับมาทำสิ่งที่พวกเขาถนัดที่สุดก็ว่าได้ เพราะหลังจากที่พวกเขาได้ทดลองแหวกแนวไปทำเกมอย่าง Evolved

แม้ว่าคอนเซปต์เกมจะดีและน่าสนใจ แต่สุดท้ายมันก็ไปไม่รอดจนได้ และ Back 4 Blood คือการกลับมาหาความเป็นตัวเองที่พวกเขาถนัดและทำได้ดีอีกครั้ง น่าเสียดายที่มันไม่ใช่การนับ 3 ให้ Left 4 Dead แต่เป็นการเริ่มต้นใหม่โดยนำเอาของเดิมที่ดีอยู่แล้วมาต่อยอด

ใครที่ผ่านประสบการณ์ Left 4 Dead มาอย่างช่ำชอง สัมผัสแรกที่คุณได้เล่น Back 4 Blood จะทำให้คุณคิดถึงวันวานเก่า ๆ ทันที ทั้งระบบต่าง ๆ เกมเพลย์การเล่นที่ใส่ฟีเจอร์สุดกวนทั้งเอาไว้ช่วยเรา หรือแกล้งเพื่อนมาเต็มไปหมด แม้ว่าในช่วงเบต้าที่ผ่านมา คอนเทนต์จะดูน้อยจนเราไม่ยังไม่สาแก่ใจ

แต่ก็ถือว่ามากเพียงพอที่จะทำให้เราคิดถึง Left 4 Dead ได้ ไม่ว่าจะเป็นอุปสรรคพื้นฐานอย่างการยิงกันเอง (Friendly Fire) ไอเทมที่เป็นได้ทั้งตัวช่วยและความหายนะ อย่างพวกถังแก๊ส หรือถังน้ำมัน เหล่าศัตรูที่ Jump Scare

เราและทีมได้เป็นอย่างดี กล่าวได้ว่า นี่คือการเอา Left 4 Dead มาต่อยอดให้เป็นเกมใหม่ เพิ่มระบบที่ควรจะมีเข้าไป อย่างเช่นเราสามารถ Aim Down Sight ได้แล้ว หรือไอเทมจิปาถะต่าง ๆ ที่มีให้ใช้งานมากขึ้น และอาวุธก็มากขึ้นด้วย

ภาพรวมทั้งหมดของ Back4Blood คือการกลับมาหาความเป็นตัวเอง กลับมาสู่สิ่งที่พวกเขาทำได้ดี แต่ก็ใส่ระบบและสิ่งใหม่ ๆ เข้าไปในเกม และจากกระแสตอบรับของรอบ Beta นี้ ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียวสำหรับเกมนี้

Back 4 Blood

เมื่อระบบการ์ด สร้างความแตกต่างให้กับการเล่น

ฟีเจอร์ชูโรงของ Back4Blood คือระบบ Card System ซึ่งมาเปลี่ยนให้เกมมีความเป็น Roguelite แบบเบา ๆ ที่ Left 4 Dead ไม่มี และมันจะส่งผลกระทบกับการเล่นอย่างมากเลยทีเดียว ระบบการ์ดในเกมจะมี Deck System

ให้ผู้เล่นได้จัดเด็คที่เหมาะสมกับสไตล์การเล่นของตัวเอง โดยใน 1 เด็คจะใส่การ์ดเข้าไปได้ 15 ใบ และในช่วงเริ่มแต่ละด่าน ระบบจะสุ่มการ์ดขึ้นมา 5 ใบจากเด็คที่เราจัดไว้ให้เลือกหยิบมาเสริมสถานะของเรา หรือบางใบก็จะเป็นการเพิ่มสถานะให้กับทั้งทีมเลยด้วย โดยเราสามารถจัดเด็คได้ไม่อั้น และจัดให้ใช้งานได้ทั้งโหมดเนื้อเรื่องและโหมด PVP

กล่าวได้ว่า เอาแค่ Card System ก็แทบจะทำให้ Back4Blood สลัดคราบเกมเพลย์ Left 4 Dead ทิ้งได้แล้ว และเป็นอีกระบบที่ชวนให้คนเล่นวนซ้ำไปมาเพื่อหาการ์ดมาครอบครองให้ได้มากที่สุด และทำให้เรารู้สึกว่าการกลับมาเล่นด่านเดิม มีคุณค่าและความสนุกมากขึ้น เพราะมันขึ้นอยู่กับว่าด่านนั้นเราสุ่มได้การ์ดอะไร รสชาติการเล่นด่านเดิมจะเปลี่ยนไปตามการ์ดที่คุณมีด้วยเช่นกัน

ความสามัคคีที่ต้องมีมากกว่าที่เคยจริง ๆ แล้ว ใน Left 4 Dead ก็จำเป็นจะต้องใช้ความสามัคคีมากในระดับนึงอยู่แล้ว ถึงจะเล่นผ่านได้ แต่ Back4Blood อาจต้องการมันมากยิงกว่า

ภายในเกมยังมีไอเทมเสริมอื่น ๆ เช่นเครื่องปั๊มหัวใจที่มีมาตั้งแต่ Left 4 Dead หรือ Tool Kit ใช้ในการเปิดกล่องเอาอาวุธพิเศษหรือเปิดห้องลับ เพื่อไอเทมพิเศษด้วย ซึ่งผู้เล่นทุกคนต้องพูดคุยกันเพื่อเลือกว่ารอบนี้ใครจะซื้อไอเทมอะไร

พกอะไรเข้าไปในเกม จริงอยู่ว่า การพกไอเทมซ้อนทับกันหรือไม่เกิดประโยชน์ใด ๆ ไม่ได้เลวร้ายถึงขั้นทำให้เกมจบไม่ได้ แต่ถ้าพูดคุยกัน สามัคคีกัน มันจะทำให้เกมการเล่นง่ายขึ้นราวพลิกฝ่ามือ

ทั้งระบบเกมเพลย์ ทั้งการออกแบบเกมเพลย์ ตอกย้ำชัดเจนอีกข้อว่านี่คือสิ่งที่ผู้สร้างเขาถนัด และเราอาจจะต้องใช้ความสามัคคีในการเล่นมากกว่าเกมเก่าอย่าง Left 4 Dead เพราะงั้นใครที่อยากจะเล่นเกมนี้ ก็ลองหาเพื่อนเตรียมตัวเอาไว้ด้วยดีกว่า

โหมดง่ายก็ง่ายไป โหมดยากก็ยากไป (ถ้าไร้เพื่อน)

อาจจะไม่แตกต่างจาก Left 4 Dead ที่โหมดความยากสูง ๆ นั้น ขาดทีมเวิร์คไปก็ลำบาก แต่กับ Back4Blood นี้ จากประสบการณ์ที่ลองเล่น เหมือนกับเกมหาจุดตรงกลางของความยากไม่เจอ เพราะหากคุณเล่นในโหมด Survivor

ตัวเกมจะเล่นง่ายขึ้นมาก มากชนิดที่ว่ากระสุนเหลือ ยาเหลือ เงินเหลือ ไม่ต้องซื้อของเลยก็ได้ เพราะโหมดนี้คุณจะได้รับบัฟหลากหลาย มันง่ายจนรู้สึกว่าเป็น Super Easy และไม่น่าแปลกใจที่ใครหลายคนจะบอกว่าเกมมันง่ายจนเกินไป

กลับกัน หากคุณยกระดับขึ้นมาเป็น Veteran ในโหมดนี้การ Friendly Fire หรือยิงโดนเพื่อนตัวเอง จะทำดาเมจสูงถึง 35% แค่นี้ก็ว่ายากพอแล้ว แต่ใครที่ลองเล่นมาแบบเต็ม ๆ จะรู้ว่าความโหดหินของมันคือการ Spawn ศัตรูที่จับทางไม่ได้ แถมศัตรูยังตีแรงขึ้น และภายในเกมนี้ หากเราถูกโจมตีบ่อย ๆ Max HP

หรือพลังชีวิตสูงสุดจะลดลงเรื่อย ๆ ทำให้การเล่นลำบากมาก หากคุณคิดจะเล่นโหมด Veteran ทางออกที่ดีที่สุดคือหาเพื่อนร่วมทีมที่สามารถพูดคุยสื่อสารกันได้ เพราะถ้า Matchmaking ไป รับรองว่าไม่น่ารอดเกินด่านแรก ๆ